คอลัมน์ Golden Ranks : 3 ทักษะถนัดหรือไม่ถนัด ของพนักงานในปี 59

เรื่อง : สกลวรรธน์ ธัญคุณากูลรัชต์

           ต้องบอกเลยว่า ยุคสมัยทุกวันนี้ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะวิถีชีวิตความเป็นอยู่ สังคม หรือแม้กระทั้งการทำงานที่ผันเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ไม่ว่าจะแนวคิดใช้นวัตกรรมหรือสื่อเทคโนโลยีมาเสริมมาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำงาน ขณะเดียวก็เริ่มปรับลดวิธีการทำงานแบบดั้งเดิมออกไป รวมถึงการทัศนคติทางความคิดในการทำงานที่ต่างจากสมัยก่อนอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นพนักงานบางคนมีความถนัดไม่ถนัดแตกต่างกันออกไป วันนี้ Trunk จึงขอเสนอ 3 ทักษะที่ไม่ถนัดและถนัดที่สุดของพนักงานในยุค Gen Y ประจำปี 2016 กันครับ

1. ถนัดหาข้อมูล / ไม่ถนัดเขียนอีเมล์

          กลายเป็นทักษะขั้นพื้นฐานไปแล้วสำหรับพนักงานยุคนี้ กับการหาข้อมูลเบื้องต้นด้วยตนเอง ส่วนหนึ่งก็มาจากยุคสมัยที่เอื้อประโยชน์ให้กับการค้นหาข้อมูลได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อโซเซียลมีเดียในปัจจุบัน ที่ทำให้เกิดคลังข้อมูลอันมโหฬาร แถมประชาชนคนธรรมดายังสามารถเข้าถึงสิ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย นั้นจึงเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้พนักงานในยุคนี้มีทักษะในการหาข้อมูลสูง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ทักษะที่พนักงานยุคใหม่ไม่ค่อยถนัดกลับเป็นการเขียนอีเมลล์ ทั้งที่การเขียนอีเมลล์ถ้าเทียบรุ่นกันแล้ว ก็ถือเป็นสื่อโซเซียลมีเดียรุ่นพี่ ก่อนที่สื่อโซลเซียลมีเดียจะได้รับความนิยมอีกด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งก็มาจากการส่งข้อมูลทุกวันนี้มีหลายช่องทางมากขึ้น และแต่ละแบบก็มีรูปแบบการใช้ที่แตกต่างกันออกไป ขณะที่การส่งอีเมลล์ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นส่งเอกสารข้อมูลแบบทางการเท่านั้น แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการเขียนเป็นทางการย่อมต้องมีรูปแบบโครงสร้างและวิธีการเขียนที่เหมาะสมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่เนื่องจากสื่อทุกวันนี้มีมากมายเหลือเกิน ประกอบกับคนยุคนี้ไปใช้สื่อใหม่เป็นการสื่อสารหลักเสียส่วนใหญ่ ซึ่งสื่อสมัยก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้สำนวนทางการ ทำให้ทักษะด้านการเขียนอีเมลล์เป็นความสามารถเฉพาะทางของคนยุคนี้ไปแล้ว เห็นได้จากการเขียนอีเมลล์สำหรับสมัครงาน

2.  ถนัดวิเคราะห์ / ไม่ถนัดสรุปย่อเรื่องราว

           ถือเป็นกรณีที่อาจดูย้อนแย้งกันไปซักนิด สำหรับความถนัดด้านวิเคราะห์แต่ไม่ถนัดสรุปย่อเรื่องราว แต่ก็ถือว่าอยู่ในฐานที่เข้าใจได้ เพราะเนื่องจากสื่อยุคนี้เต็มไปด้วยข้อมูลมากมายมหาศาลแถมยังเข้าถึงง่าย ประกอบกับมีความเคลื่อนไหวแบบนาทีต่อนาที ทำให้คนยุคนี้มีความสามารถในการหยิบยกฐานข้อมูลหนึ่งมาเปรียบเทียบกับอีกฐานข้อมูลหนึ่งได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก รวมไปถึงรับฟังความคิดเห็นจากบุคคลบนโลกออนไลน์ต่อประเด็นนั้นๆ ทำให้คนยุคนี้สามารถพิเคราะห์ข้อมูลและประเมินความสมเหตุสมผลด้วยตนเองได้ ในทางกลับกัน ด้วยความรวดเร็วในการเผยแพร่ข่าวสารของสื่อสมัยนี้ ผนวกกับคนส่วนใหญ่มีการใช้อารมณ์ความรู้สึกในการใช้เครื่องมือสื่อสาร ทำให้หลายครั้งผู้คนส่วนใหญ่ตัดสินสรุปเรื่องราวไปตามภาวะอารมณ์นั้นๆ และหากสื่อนั้นมีความน่าเชื่อถือสูง ก็ยิ่งทำให้การตัดสินใจหรือสรุปเรื่องราวนั้นๆ รวดเร็วขึ้น โดยอาจไม่ได้ไตร่ตรองหรือวิเคราะห์จากข้อมูลในหลายๆ มิติเสียก่อน

3. ถนัดทำงานเป็นทีม / ไม่ถนัดการเป็นผู้นำ

          อาจจะบอกได้ว่า ทั้งสองทักษะนี้มีผลพวงมาจากการช่วงวัยเรียน โดยจากข้อมูลเว็บหางานชั้นนำอย่าง Jobthai ได้ชี้ให้เห็นว่า พนักงานส่วนใหญ่โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ มีความสามารถในการทำงานเป็นทีมแต่บกพร่องหรือขาดทักษะในการเป็นผู้นำ คาดได้ว่าพนักงานใหม่ๆ ส่วนใหญ่มักจะมีประสบการณ์ในการทำงานจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งอาจารย์ส่วนใหญ่ก็มักจะมีการทำรายงานเป็นกลุ่มอยู่เสมอ เพื่อช่วยกันจัดสรรแบ่งปันงานให้ทุกคนได้ทำร่วมกันคิดและแก้ปัญหาร่วมกัน แน่นอนว่าการทำงานกับเพื่อนที่รู้จักมาร่วมปี ประกอบกับความเข้าใจรูปแบบความคิดของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ย่อมทำให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน ข้อพิพาทสำคัญที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาทุกครั้งเมื่อมีการทำงานกลุ่ม คือการเลือกหัวหน้าหรือผู้นำมาดูแลงานในภาพรวม เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวมีงานรับผิดชอบค่อนข้างสูง ทั้งการมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามงาน วิเคราะห์แก้ปัญหา เป็นผู้นำทางแนวคิด บริหารงานอย่างเป็นระบบ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้นับเป็นเรื่องยุ่งยากที่นักศึกษาส่วนใหญ่หลีกหนีอยู่เสมอ นั้นจึงเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การเป็นผู้นำอยู่ในทักษะที่ไม่ถนัดของพนักงานนั้นเอง