เรื่อง : สกลวรรธน์ ธัญคุณากูลรัชต์
เราต่างรู้ดีว่า มนุษย์คือสัตว์สังคมที่มีพัฒนาการทางสมองก้าวไกลกว่าสัตว์ใดๆ บนโลก ยิ่งหากเทียบประสิทธิภาพด้านการคิดวิเคราะห์ ทั้งกระบวนการจำหรือหลักประมวลสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ ก็ถือว่าเหนือชั้นกว่าสัตว์ทุกตนอยู่หลายขุม แต่บัดนี้ อัจฉริยภาพของเรากำลังถูกท้าทาย ไม่สิ เรากำลังถูกทดสอบอยู่ต่างหาก จากสิ่งประดิษฐ์ Neo technology ผลผลิตอันเยี่ยมยอดของ Google Deep mind กับลูกสาวสมองกลคนแรกของพวกเขานั้นคือ AGI (Artificial General Intelligence) หรือ บางคนอาจจะคุ้นชินในชื่อ “AlphaGo”
Google Deep mind ได้บอกเล่าถึงความฝันของกระต่ายที่หมายจะครองดวงจันทร์ให้ฟัง ถึงการเป็นผู้ควบคุมเหนือความซับซ้อนทางสมการหรือปรากฏการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ ทว่า สิ่งหนึ่งที่กีดขวางเขากับความฝัน คือขีดความสามารถของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีข้อจำกัดเดียวที่ทำให้เขาไม่สามารถดำเนินฝันให้เป็นจริงได้ ไม่ว่าทางด้านกายภาพหรือสุขภาพจิตที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือถึงขั้นล้มเหลว ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาริเริ่มสร้างสมองกลเพื่อมาช่วยกลบข้อบกพร่องของมนุษย์ เขาวางอนาคต AGI ให้มีกระบวนความคิดคล้ายคลึงกับมนุษย์ โดยให้อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์เคยมี ด้วยการปลูกจินตนาการให้กับมัน เกิดเป็นเครือข่ายประสาทเทียมหรือ NN (Neural Networks)
ส่งผลให้ปัญญาประดิษฐ์จากที่เคยทำงานตามระบบสั่งการได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันยังมีระบบความคิดแบบพลวัต (Deep Learning) กล่าวคือ AGI สามารถประมวลเหตุการณ์ล่วงหน้า อีกทั้งเรียนรู้และวิเคราะห์สถานการณ์ (Tree Search) จนไปถึงตัดสินใจเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้เอง โดยไม่ต้องมีโปรแกรมเมอร์มาคอยกำกับบทบาทให้กับมันอีกต่อไป ที่สำคัญการตัดสินใจทุกครั้งของ AGI จะเป็นการค้นหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเสมอ (Value Policy)
วันที่ 12 พฤษภาคม 2558 Demis Hassabis หนุ่มวัย 27 ปี 1 ใน 3 ผู้ก่อตั้งบริษัท Google Deep mind ได้จัดแถลงข่าวแนะนำตัวลูกสาวสมองกลของเขาเป็นครั้งแรกต่อหน้าสาธารณชน โดยแสดงความสามารถของเธอผ่านเกม Breakout และ Space Invaders เกมขนาด 8 bit ที่มีรูปแบบการเล่นไม่ซับซ้อนมากนัก โดยขณะนั้น AGI อยู่ภายใต้รหัสชื่อ “Deep Q”
เมื่อโปรแกรมเมอร์ป้อนระบบสั่งการให้เล่นเกมดังกล่าว Deep Q ก็เริ่มเล่นโดยไร้ผู้บังคับตั้งแต่ต้น การเล่นในช่วงแรก Deep Q มีความสามารถเหมือนคนเพิ่งหัดเล่น ผิดพลาดบ่อย จนเมื่อผ่านไป 100 เกม AGI หรือ Deep Q ก็เริ่มเล่นเกมได้ช่ำชองมากขึ้น จุดพลาดและเคลื่อนไหวไร้ประโยชน์น้อยลง และหลังจากผ่านไป 500 เกม เธอก็สามารถเล่นเกมได้โดยไร้ที่ติ อีกทั้งแสดงความประทับใจให้กับผู้ร่วมงาน เมื่อ Deep Q สามารถจบเกมด้วยการคาดคะเนเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อีกด้วย
ข้อมูลอ้างอิง
http://pantip.com/topic/34904402
https://www.facebook.com/notes/panote-saechiew/how-alpha-go-work/1340692295948067
https://bzinsight.wordpress.com/
http://newvantage.com/big-data-2/
http://thanachart.org/
https://www.youtube.com/watch?v=rbsqaJwpu6A
เราต่างรู้ดีว่า มนุษย์คือสัตว์สังคมที่มีพัฒนาการทางสมองก้าวไกลกว่าสัตว์ใดๆ บนโลก ยิ่งหากเทียบประสิทธิภาพด้านการคิดวิเคราะห์ ทั้งกระบวนการจำหรือหลักประมวลสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ ก็ถือว่าเหนือชั้นกว่าสัตว์ทุกตนอยู่หลายขุม แต่บัดนี้ อัจฉริยภาพของเรากำลังถูกท้าทาย ไม่สิ เรากำลังถูกทดสอบอยู่ต่างหาก จากสิ่งประดิษฐ์ Neo technology ผลผลิตอันเยี่ยมยอดของ Google Deep mind กับลูกสาวสมองกลคนแรกของพวกเขานั้นคือ AGI (Artificial General Intelligence) หรือ บางคนอาจจะคุ้นชินในชื่อ “AlphaGo”
Google Deep mind ได้บอกเล่าถึงความฝันของกระต่ายที่หมายจะครองดวงจันทร์ให้ฟัง ถึงการเป็นผู้ควบคุมเหนือความซับซ้อนทางสมการหรือปรากฏการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ ทว่า สิ่งหนึ่งที่กีดขวางเขากับความฝัน คือขีดความสามารถของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีข้อจำกัดเดียวที่ทำให้เขาไม่สามารถดำเนินฝันให้เป็นจริงได้ ไม่ว่าทางด้านกายภาพหรือสุขภาพจิตที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือถึงขั้นล้มเหลว ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาริเริ่มสร้างสมองกลเพื่อมาช่วยกลบข้อบกพร่องของมนุษย์ เขาวางอนาคต AGI ให้มีกระบวนความคิดคล้ายคลึงกับมนุษย์ โดยให้อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์เคยมี ด้วยการปลูกจินตนาการให้กับมัน เกิดเป็นเครือข่ายประสาทเทียมหรือ NN (Neural Networks)
ส่งผลให้ปัญญาประดิษฐ์จากที่เคยทำงานตามระบบสั่งการได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันยังมีระบบความคิดแบบพลวัต (Deep Learning) กล่าวคือ AGI สามารถประมวลเหตุการณ์ล่วงหน้า อีกทั้งเรียนรู้และวิเคราะห์สถานการณ์ (Tree Search) จนไปถึงตัดสินใจเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้เอง โดยไม่ต้องมีโปรแกรมเมอร์มาคอยกำกับบทบาทให้กับมันอีกต่อไป ที่สำคัญการตัดสินใจทุกครั้งของ AGI จะเป็นการค้นหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเสมอ (Value Policy)
วันที่ 12 พฤษภาคม 2558 Demis Hassabis หนุ่มวัย 27 ปี 1 ใน 3 ผู้ก่อตั้งบริษัท Google Deep mind ได้จัดแถลงข่าวแนะนำตัวลูกสาวสมองกลของเขาเป็นครั้งแรกต่อหน้าสาธารณชน โดยแสดงความสามารถของเธอผ่านเกม Breakout และ Space Invaders เกมขนาด 8 bit ที่มีรูปแบบการเล่นไม่ซับซ้อนมากนัก โดยขณะนั้น AGI อยู่ภายใต้รหัสชื่อ “Deep Q”
เมื่อโปรแกรมเมอร์ป้อนระบบสั่งการให้เล่นเกมดังกล่าว Deep Q ก็เริ่มเล่นโดยไร้ผู้บังคับตั้งแต่ต้น การเล่นในช่วงแรก Deep Q มีความสามารถเหมือนคนเพิ่งหัดเล่น ผิดพลาดบ่อย จนเมื่อผ่านไป 100 เกม AGI หรือ Deep Q ก็เริ่มเล่นเกมได้ช่ำชองมากขึ้น จุดพลาดและเคลื่อนไหวไร้ประโยชน์น้อยลง และหลังจากผ่านไป 500 เกม เธอก็สามารถเล่นเกมได้โดยไร้ที่ติ อีกทั้งแสดงความประทับใจให้กับผู้ร่วมงาน เมื่อ Deep Q สามารถจบเกมด้วยการคาดคะเนเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะนี้ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความสำเร็จ
เมื่อเทียบกับปนิธานของ Demis ในการโค่นล้มความลับในทฤษฎีต่างๆ
ให้จงได้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงให้โจทย์มหาหินกับ AGI อีกครั้ง ด้วยการประลองเกมกระดานที่ใครบางคนเชื่อว่า AI ไม่มีทางชนะมนุษย์ได้แน่นอนกับ “เกมหมากล้อม” โดยมีคู่มือเป็นนักเล่นโกะระดับโลกจากเกาหลีใต้อย่าง
“Lee Sedol” พร้อมให้ชื่อใหม่กับเธอนั้นคือ
“AlphaGo” หลายคนจับตาดูการแข่งขันครั้งนี้
และเชื่อว่าฝ่ายมนุษย์ต้องคว้าชัยชนะมาอย่าง่ายดาย ทว่า ผลที่ออกมากลับทำให้ผู้ชมประหลาดใจ
เมื่อ AlphaGo สามารถคว้าชัยชนะไปได้ถึง
4 กระดาน ขณะที่ Lee Sedol ชนะได้เพียงกระดานเดียวเท่านั้น ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เสมือนความแพ้ของมนุษยชาติ
หลายคนรู้สึกตื่นตะลึงกับความสามารถ AlphaGo
บางคนถึงกับคาดการณ์ว่า
อำนาจของมนุษย์อาจถูกยึดครองโดยหุ่นยนต์สมองกลในอีกไม่ช้า
ถึงกระนั้น ความเป็นไปได้ที่มากกว่ามหันตภัยที่โผล่อยู่ในหนัง Si-fi สิ่งแรกที่สมองกล AGI จะยึดไปจากเราคงเป็นงานของมนุษย์เสียมากกว่า
เพราะ ณ วันนี้ AGI เป็นเพียงการพัฒนา R&D ที่ถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของโลก แต่อีกไม่นาน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลประโยชน์ด้านการประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลได้ดีเยี่ยมเช่นนี้
อาจถูกใช้งานในเชิงพาณิชย์ องค์กรใหญ่ๆ ทั้งหลายก็คงว่าจ้างระบบ AGI แทนมนุษย์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ โดยเฉพาะงานที่ต้องอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก
ไม่รู้จะเรียกว่าพรหมลิขิตหรือเหตุบังเอิญ จากวันที่ AGI ได้ก่อกำเนิดขึ้นมา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่โลกของเรากำลังขับเคลื่อนเข้าสู่ยุค
Big Data หรือยุคที่มีปริมาณข้อมูลมากมายมหาศาล
ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของแต่ละบริษัทก็เริ่มใช้ฐานข้อมูลเหล่านี้
เป็นตัวกำหนดยุทธศาสตร์ในการทำธุรกิจให้เหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยเหตุนี้ ทำให้หลายบริษัทเริ่มเรียกหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง
“Data Scientist” ผู้เปี่ยมไปด้วยองค์ความรู้ด้าน
Algorithm และ Machine Learning ช่วยให้พยากรณ์อนาคตผ่านโมเดลคณิตศาสาตร์และวิทยาศาสตร์
เพื่อกำหนดเส้นทางที่บริษัทควรก้าวต่อไป (Predictive
Analytic)
แน่นอน สิ่งนี้จะเป็นโอกาสให้กับนักโปรแกรมเมอร์ นักคณิตศาสตร์
รวมถึงผู้ศึกษาด้าน statistics ในการคว้าตำแหน่งที่เหมือนเป็นหัวหอกของบริษัท แต่เมื่อ
AGI กำเนิดขึ้นมา
ก็มีโอกาสไม่น้อยที่ผู้บริหารจะเบนเข็มความสำคัญไปให้ปัญญาประดิษฐ์ เพราะเพียงแค่ปรับแผนรายจ่ายของ Data Scientist เป็นต้นทุนสำหรับ AGI พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปยื้อแย่งหาผู้ดำรงตำแหน่ง
Data Scientist ที่มีเพียงหยิบมือจากทั่วโลกอีกต่อไป
Analytic)
แค่นั้นไม่พอ AGI ยังสามารถทำงานได้เกินขีดความสามารถที่บริษัทต้องการ
โดยไม่เหนื่อยไม่ล้า เรียนรู้เร็ว อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะได้ผลพิเคราะห์ในระดับ Prescriptive Analytics หรือการวิเคราะห์เชิงลึกที่แม่นยำที่สุด
ด้วยการพยากรณ์อนาคต แถมมอบตัวเลือกที่บริษัทควรดำเนินต่อไป รวมถึงบทสรุปตัวเลือกนั้นๆ
ว่าจะให้ผลลัพธ์อย่างไรต่ออนาคต ซึ่งถือเป็นการวิเคราะห์ที่เหนือกว่า Predictive Analytic อยู่มากทีเดียว
และแผนการต่อไปของ Google
Deep mind คือการตั้งคณะกรรมการด้านจริยธรรมให้ปัญญาประดิษฐ์ ทำให้ AGI มีการทำงานสอดคล้องกับครรลองครองธรรมของมนุษย์ได้ดี
ส่งผลให้สมองจักรกลสามารถกระจายสู่ตลาดแรงงานในวงกว้างได้มากขึ้น อาทิ
ตำแหน่งงานโบรกเกอร์ แผนกปล่อยสินเชื่อในธนาคาร ฯลฯ
สำหรับสัญญานที่ดีของผู้บริโภคก็ยังพอมีอยู่บ้าง เพราะเนื่องจากบริษัทให้บริการด้านค้นหาข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง
Google ได้ซื้อบริษัท Deepmind ไปครองในช่วงปี 2014 ทำให้มีโอกาสมิใช่น้อยที่ทาง Google จะสบโอกาสใช้ผลงานปัญญาประดิษฐ์ พัฒนาเป็นฟีเจอร์ในการช่วยค้นหาข้อมูล
ซึ่งมาในรูปแบบเลขาส่วนตัวของมนุษย์ ช่วยการวิเคราะห์ความต้องการและค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคเป็นรายบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
และหากบริษัทหรือภาครัฐได้ใช้ระบบ AGI เพื่อผลวิเคราะห์ในขั้น Prescriptive Analytics จะเป็นประโยชน์อย่างสูง
ถึงการดูแลบริการด้านข้อมูลที่ครอบคลุมและมีคุณภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย
นับเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง
Trunk เชื่อว่าสิ่งนี้จะนำเราไปสู่ปรากฏการณ์ใหม่ๆ
อีกมากมายที่แม้แต่เราก็ไม่อาจคาดคิด การทลายกฎเหล็กของธรรมชาติกำลังมาถึง ทฤษฎีสมการที่ไม่มีใครไขปริศนาออก
กำลังจะถูกเปิดโปง โลกกำลังเข้าสู่การปฎิวัติครั้งยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ระบบ AGI ยังมีจุดด่างพล้อยอยู่เล็กน้อย เนื่องจากการทดสอบของ
AGI ยังอยู่ในขอบข่ายของรูปแบบเกมเท่านั้น
ซึ่งหากนำมาใช้ในฐานข้อมูลที่กว้างและซับซ้อนกว่านี้อย่างการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data ที่มีปัจจัยแวดล้อมมากกมาย
ก็มีโอกาสสูงที่ AGI จะชี้ผลคลาดเคลื่อนหรือไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร
หากพูดตามตรง เธอยังไม่ได้พิสูจน์ตนเองในฐานะปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยเหลือมนุษย์ได้อย่างแท้จริง
จุดนี้เป็นการการันตีว่าปัญญาประดิษฐ์คงต้องพัฒนาอีกหลายอย่าง และเป็นไปไม่ได้เลยที่
AI จะยึดครองอำนาจมนุษย์ของเรา
“ในตอนนี้”
http://pantip.com/topic/34904402
https://www.facebook.com/notes/panote-saechiew/how-alpha-go-work/1340692295948067
https://bzinsight.wordpress.com/
http://newvantage.com/big-data-2/
http://thanachart.org/
https://www.youtube.com/watch?v=rbsqaJwpu6A
คอลัมน์ ลับเฉพาะ : AGI,Deep Q, AlphaGo ผู้รัฐประหารแรงงานคน
Reviewed by tonygooog
on
19:40:00
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: