คอลัมน์ Golden Ranks : 3 สัญาณที่นักลงทุนกลัวกระทบเศรษฐกิจไทยปี 2560

เรื่อง : สกลวรรธน์ ธัญคุณากูลรัชต์

         นับเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่รัฐบาลชุด คสช. ยังคงยืนยันคำเดิมว่า เศรษฐกิจไทยจะ “ฟื้นตัว” หรือ “เติบโต” ถึง 4% ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้ปกครองส่วนใหญ่ ที่จะต้องพูดในเชิงสร้างสรรค์มากกว่าจะในเชิงลบ ที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน แต่เมื่อมองถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่ต้องดิ้นรนหนีตายมาตลอดปี 2559 จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จนทำให้ประเทศที่มีการทำการค้ากับต่างประเทศอย่างไทย ต้องได้รับผลกระทบโดยมิอาจเลี่ยงได้ และในสายตาของนักธุรกิจ ก็ยังคงเพ่งเล็งเห็นถึงสัญญาณไม่ฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ วันนี้ Bansorn จึงขอนำเสนอ 3 สัญญาณที่เอกชนเชื่อว่าทำเศรษฐกิจไทยไม่โตอย่างที่คาด (Ranks บนหัวข้อคือการคาดการณ์จาก Bansorn ถึงความกังวลต่อสถานการณ์นั้นๆ ของเอกชนที่อาจเป็นภัยร้ายเศรษฐกิจประเทศไทย)

1.การเมือง B

ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ : A

              การแก้ไขของรัฐบาล         : C-

              ความเชื่อมั่นประชาชน      : C

                ถือเป็นอีกปัญหาเรื้อรังที่อยู่คู่ฟ้าเมืองไทยมาอย่างช้านานและนับเป็นภัยที่คุกคามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากการเมืองไทยยังขาดเสถียรเป็นอย่างมาก ประกอบกับรัฐบาลในยุคของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังได้ประกาศกร้าวว่าจะปฏิรูปประเทศไทยให้เป็น ประเทศไทย 4.0  แต่จนถึงวันนี้ นอกจากเด็ดขาดและความรวดเร็วในการตัดสินใจของลุงตู่ ประชาชนก็ยังไม่ได้สัมผัสการปฏิรูปประเทศอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาลอยู่ดี

               ซ้ำร้าย หากนับการเมืองเป็นหนึ่งบริษัท ในสายตาประชาชน ก็ถือเป็นบริษัทที่ถูกครหาด้านทุจริตมากที่สุดอีกองค์กรหนึ่งอีกด้วย ซึ่งหากความเชื่อมั่นด้านการเมืองของประชาชนในบริษัทยังไม่ไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่เอกชนทั้งในและต่างประเทศจะมาลงทุนก็จะน้อยตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม จากการลงทุนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานในปีนี้ที่ค่อนข้างหนักหน่วง ก็ยังพอใจชื่นกันได้ว่าจะทำให้ความมั่นใจของเอกชนดีขึ้นมาบ้าง

2.การท่องเที่ยว B+

                  ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ : B

                การแก้ไขของรัฐบาล         : C

                ความเชื่อมั่นประชาชน      : B

                การท่องเที่ยวนับเป็นอีกหนึ่งพระเอกสำคัญที่มีบทบาทต่อรายได้ของประเทศและเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากแดนสยามอุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติมากมาย ผนวกกับวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงนานาประเทศต่างนิยมชมชอบสินค้าไทยและการท่องเที่ยวสไตล์ไทยที่ไม่ค่อยเคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบ ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวมากมาย ต่างหวนกลับมาเที่ยวไทยทุกๆ ปี โดยเฉพาะคนจีนที่มาเที่ยวไทยสม่ำเสมอและถือเป็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ทว่า หลังจากมีการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนในปีนี้ลดลงอย่างน่าใจหาย ยุทธศักดิ์ สุภสร  ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า ปี 2560 ไตรมาสแรกตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์.นักท่องเที่ยวจีนลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ ตามด้วยรายได้ที่ลดลงอีก 4% เห็นได้จากผู้ประกอบการจำนวนมากออกมาแสดงให้เห็นถึงยอดจองโรงแรมในช่วงตรุษจีนในปีนี้ที่แตกต่างจากปีก่อน ที่มักมีนักท่องเที่ยวจีนเนืองแน่นทุกปี แต่ปีนี้กลับมีปริมาณลดลงไปถึง 2 ใน 3 ส่วนที่เคยได้

                แค่นั้นยังไม่พอ นี้คือมาตรการคุมเข้มและเป็นการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นั้นหมายความสถานการณ์ปราบปรามจะต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวจีนอาจน้อยลงเช่นนี้ตลอดทั้งปี ถึงแม้เป้าหมายของของการปราบปรามจะต้องการตัดห่วงโซ่การค้าทัวร์ที่มาจากบริษัทจีนโดยตรง เพื่อให้รายได้จากการท่องเที่ยวกลับมาสมดุลอีกครั้ง และนี้ยังถือเป็นการคัดกรองนักท่องเที่ยวให้มีระดับมากยิ่งขึ้น ทว่า การทำธุรกิจมักใช้ตัวเลขเป็นตัวแปรพื้นฐานในการประเมินสถานการณ์ การที่ปริมาณนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งใครๆต่างยอมรับว่าเป็นกลุ่มรายได้หลักของประเทศลดลง แน่นอนว่าเอกชนที่จะต้องการลงทุนด้านการท่องเที่ยวอาจชะลอตามไปด้วย เนื่องจากปีนี้การท่องเที่ยวอาจไม่ดีอย่างปีที่ผ่านมา

3. เขตเศรษฐกิจพิเศษ C+

                ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ : C-

              การแก้ไขของรัฐบาล         : D

              ความเชื่อมั่นประชาชน     : C 

                เขตเศรษฐกิจพิเศษนับเป็นผลงานด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลชุด คสช. เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ ถึงกับมีใช้พรบ. 44 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการขับดันให้โครงการพื้นที่ขุมทรัพย์ทางเขตเศรษฐกิจเกิดเป็นรูปธรรมในระยะอันสั้น ทว่า ในปี 2560 เขตเศรษฐกิจพิเศษเฟส 1 ใน 5จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก จังหวัดสระแก้ว จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสงขลา และจังหวัดตราด ยังมีตกอยู่ในภาวะชะลอการลงทุนอยู่ อีกทั้งยังการเวนคืนพื้นที่ก็ยังไม่เรียบร้อยดี ส่วนหนึ่งมาจากการต่อต้านจากคนในพื้นที่ เนื่องจากเขตเศรษฐกิจพิเศษได้เพิ่มมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้นถึง 7-8 เท่า ทว่า กลับให้ค่าชดเชยการเวนคืนพื้นที่กับชาวบ้านเพียงไร่ละ 12,000 บาทเท่านั้น ขณะที่เขตเศรษฐกิจเฟส 1 ยังคงคาราคาซังอยู่ ตอนนี้ทางรัฐบาลก็กำลังเร่งเครื่องดำเนินการเฟส 2 ต่อเสียแล้ว

                จับจด คงเป็นคำนิยามการทำงานด้านเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ค่อนข้างชัดเจน และนี้จะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เอกชนกังวลในการลงทุนในพื้นที่พิเศษเหล่านี้ เพราะนักธุรกิจส่วนใหญ่จะต้องความเชื่อมั่นจากรัฐบาลว่าการลงทุนจะได้ผลประโยชน์สูงสุด แต่การที่ผลดำเนินการยังติดชะงักอยู่กับการต่อต้านชาวบ้านและยังมีการพัฒนาโครงการที่ล่าช้า แถมยังมีการดำเนินโครงการเขตเศรษฐกิจเฟส 2 อาจทำให้การพัฒนาเฟส 1 ล่าช้าไปกว่าเดิม ส่งผลให้การลงทุนของเอกชนในเฟส 1 ก็ล่าช้าไปตามไปด้วย ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านก็พยายามยกระดับตนเองให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษเหมือนกัน  ถ้าปล่อยเช่นนี้มีโอกาสที่ประเทศจะโดนแย่งการลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นได้